นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับพนักงาน

บริษัท อินเตอร์ วอเตอร์ ทรีทเม้นท์ จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัทฯ” “เรา” หรือ “ของเรา”)  ให้ความสำคัญและเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของพนักงาน และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าพนักงานได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯจึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึงการลบ และทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้

  1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
    1. เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของพนักงานก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งพนักงานเป็นคู่สัญญากับบริษัทฯ เช่น จัดทำสัญญาจ้างงาน, ข้อตกลงการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงาน, การปฏิบัติตามข้อบังคับและระเบียบการบริหารงานของบริษัทฯ, จรรยาบรรณ, การมอบหมายให้ปฏิบัติงาน, การฝึกอบรม, การประเมินผลการปฏิบัติงาน, การพิจารณาตำแหน่งงานและค่าตอบแทน, การบริหารและการดูแลเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน 
    2. เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น กฎหมายคุ้มครองแรงงาน, กฎหมายแรงงานสัมพันธ์, กฎหมายประกันสังคม, กฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน, กฎหมายควบคุมการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม, กฎหมายควบคุมโรคติดต่อ และกฎกระทรวงต่างๆ เป็นต้น
    3. เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น เช่น การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์, การศึกษาวิเคราะห์และจัดสรรกำลังคน, การพัฒนาพนักงาน, การจัดสวัสดิการรักษาพยาบาล, การจัดสวัสดิการด้านการประกันภัย, และสวัสดิการอื่น ๆ ของพนักงาน เช่น สถานพยาบาล, โรงอาหาร, สถานที่ออกกำลังกาย, การดำเนินการเรื่องกิจกรรมพนักงาน, การบริหารด้านการเงินและงบประมาณ, การติดต่อภายใน, การติดต่อกับบุคคลภายนอก, การดำเนินการต่าง ๆ ทางทะเบียน, การมอบอำนาจ, การจัดทำหนังสือรับรอง, การจัดทำเอกสารเผยแพร่แก่สาธารณะ, การจัดทำรายงาน, การส่งข้อมูลให้หน่วยงานราชการ/หน่วยงานกำกับดูแล, การยืนยันตัวตนและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับจากพนักงาน, การวิเคราะห์และจัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการทำงาน, การติดต่อ ส่งข่าวสาร และประชาสัมพันธ์, การปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงาน, การจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก, การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศ, การสร้างบัญชีผู้ใช้งาน, การระบุตัวตนเพื่อเข้าใช้ระบบงานและการเข้าถึงระบบสารสนเทศ, การรักษาความปลอดภัย, การป้องกันอุบัติเหตุและอาชญากรรม, การตรวจสอบและจัดการเกี่ยวกับข้อร้องเรียนและการทุจริต คดีหรือข้อพิพาทต่าง ๆ, การดูแลพนักงานหลังพ้นสภาพการเป็นพนักงาน เป็นต้น
    4. เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของพนักงานหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ
    5. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้
    6. เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่พนักงานได้ให้ไว้ในแต่ละคราว

 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
    1. ข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาพนักงาน เช่น Resume, Curriculum Vitae (CV), จดหมายสมัครงาน, ใบสมัครงาน, ความเห็นประกอบการสรรหาพนักงาน เป็นต้น
    2. ข้อมูลในการติดต่อกับพนักงาน เช่น ชื่อ - นามสกุล, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, ข้อมูลโซเชียลมีเดีย
    3. ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของพนักงาน เช่น วันเดือนปีที่เกิด, อายุ, เพศ, สถานะการสมรส, ความสนใจ, ความคิดเห็น เป็นต้น
    4. ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัวหรือผู้อยู่ในความดูแลของพนักงาน ตามข้อบังคับและระเบียบการบริหารงานบุคคลของบริษัท เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส, ข้อมูลเกี่ยวกับบุตร, ข้อมูลเกี่ยวกับบิดา-มารดา, ผู้รับผลประโยชน์ ทั้งนี้ ก่อนการให้ข้อมูลกับบริษัทฯ  ให้พนักงานแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบด้วย
    5.  รูปถ่ายและภาพเคลื่อนไหว
    6.  ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถ และการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ ของพนักงาน เช่น ระดับการศึกษา, วุฒิการศึกษา, สถาบัน/มหาวิทยาลัย,ประวัติการศึกษา, ประวัติการฝึกอบรม, ผลการศึกษา, ผลการทดสอบ, สิทธิในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย, คุณสมบัติด้านวิชาชีพ, ความสามารถทางด้านภาษา, ความสามารถอื่น ๆ และข้อมูลจากการอ้างอิงที่พนักงานได้ให้แก่บริษัทฯ
    7. ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต เช่น ตำแหน่งงาน, รายละเอียดของนายจ้าง, เงินเดือนและค่าตอบแทน, สวัสดิการที่ได้รับ, หนังสือรับรอง เป็นต้น
    8. ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่สามารถปฏิบัติงานได้
    9. ข้อมูลเกี่ยวกับภาระทางทหาร
    10. ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของพนักงาน เช่น นิสัย, พฤติกรรม, ทัศนคติ, ความถนัด, ทักษะ, ภาวะความเป็นผู้นำ, ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น, ความฉลาดทางอารมณ์, ความผูกพันต่อองค์กร, ซึ่งอาจได้มาจากการสังเกตและวิเคราะห์ของบริษัทฯ และพนักงานของบริษัทฯ ในระหว่างการปฏิบัติงาน หรือการเข้าร่วมการทดสอบ การประเมิน หรือการทำกิจกรรมกับบริษัทฯ
    11. ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานหน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น กระทรวงแรงงาน, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), สมาคมวิชาชีพต่างๆ เป็นต้น
    12.  ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลค่าจ้าง, เงินเดือน, รายได้, ภาษี, กองทุนต่างๆ, บัญชีธนาคาร, การกู้ยืมเงิน, รายการยกเว้นหรือหักลดหย่อนทางภาษี เป็นต้น
    13. ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการประกันสังคม, การคุ้มครองแรงงาน, สิทธิประโยชน์, สวัสดิการ, และผลประโยชน์ที่พนักงานได้รับหรือมีสิทธิที่จะได้รับตามข้อบังคับและระเบียบบริหารงานบุคคลของบริษัท
    14.  บันทึกการเข้าออกงานและระยะเวลาในการปฏิบัติงาน, การทำงานล่วงเวลา, การขาดและลางาน เป็นต้น
    15. ข้อมูลประวัติการปฏิบัติงาน, ตำแหน่งงาน, การเข้าประชุม, การให้ความเห็น เป็นต้น
    16. ข้อมูลการใช้งานและการเข้าถึงระบบสารสนเทศ, คอมพิวเตอร์, ระบบงาน, เว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, ระบบโครงข่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ระบบอีเมล, เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทฯ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
    17.  ข้อมูลที่รวบรวมจากการมีส่วนร่วมกับบริษัทฯ  เช่น การเข้าร่วมกิจกรรม, การตอบแบบสำรวจ, การตอบแบบประเมิน เป็นต้น
    18. ข้อมูลที่พนักงานเลือกจะแบ่งปันและเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน, เครื่องมือ, แบบสอบถาม, แบบประเมิน และเอกสารต่าง ๆ ของบริษัทฯ
    19.  สำเนาเอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของพนักงาน เช่น บัตรประจำตัวประชาชน, ทะเบียนราษฎร์, หนังสือเดินทาง, เอกสารอื่น ๆ ที่ออกให้โดยหน่วยงานของรัฐ
    20.  รายละเอียดของผู้ที่บริษัทฯสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
    21. ข้อมูลเกี่ยวกับยานพาหนะ, ใบอนุญาตขับขี่, ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ, และกรณีที่พนักงานขับขี่ยานพาหนะที่บริษัทฯจัดหาให้, บริษัทฯจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการขับขี่ยานพาหนะของพนักงานด้วย
    22. ข้อมูลอื่นที่จำเป็นต่อการตรวจสอบความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เช่น ข้อมูลการถือหุ้นและความสัมพันธ์กับคู่ธุรกิจ  เป็นต้น
    23. ข้อมูลเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ทั้งในกรณีที่พนักงานประสบอุบัติเหตุในเวลางานหรืออันเนื่องมาจากการปฏิบัติงาน และอุบัติเหตุอื่น ๆ
    24. ข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาจ้างแรงงาน, การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ, การวิเคราะห์และการบริหารงานของบริษัทฯ, การดูแลพนักงานหลังพ้นสภาพการเป็นพนักงาน และการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ
    25. ข้อมูลที่เกี่ยวกับการร้องเรียน, การร้องทุกข์, การสอบสวน, การลงโทษทางวินัย เป็นต้น

ทั้งนี้ หากพนักงานปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องใช้เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือเพื่อเข้าทำสัญญาแก่บริษัทฯ  อาจทำให้การปฏิบัติงานตามสัญญาและสิทธิในการเข้าถึงสวัสดิการหรือบริการที่บริษัทฯจัดไว้ ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์ 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษ
    1. บริษัทฯอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของพนักงานเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯแจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
    2. บริษัทฯอาจต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของพนักงาน ในกรณีดังต่อไปนี้
      1. ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก, ส่วนสูง, โรคประจำตัว, ตาบอดสี, ผลการตรวจร่างกาย, ข้อมูลการแพ้อาหาร, ข้อมูลการแพ้ยา, หมู่โลหิต, ใบรับรองแพทย์, ประวัติการรักษาพยาบาล, ประวัติการจ่ายยา, ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล เพื่อการคุ้มครองแรงงานและการจัดให้มีสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลสำหรับพนักงาน, การประเมินความสามารถในการทำงานของพนักงาน, รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของพนักงาน เพื่อการบริหารจัดการที่เหมาะสมอื่น ๆ
      2.  ข้อมูลชีวภาพ (biometric data) เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ, ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า เพื่อใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนของพนักงาน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น
      3. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงานและรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น
      4. ความเชื่อในลัทธิศาสนา, ปรัชญา, เชื้อชาติ, สัญชาติ, ความพิการ, ข้อมูลสหภาพแรงงาน, ข้อมูลพันธุกรรม, ข้อมูลชีวภาพ เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรม และสวัสดิการที่เหมาะสมกับพนักงาน รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน
      5. ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลในกรณีที่พนักงานไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของพนักงาน เพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม และสวัสดิการของพนักงาน
  1. ในกรณีที่จำเป็น บริษํทฯจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของพนักงานโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากพนักงานหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทฯจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของพนักงาน
  2. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม ซึ่งจะเก็บจากการหลักฐานที่พนักงานนำมาแสดงหรือหรือพนักงานยินยอมให้ตรวจสอบจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยบริษัทฯจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนด

 

  1. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
  1. ในกรณีที่บริษํทฯเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของพนักงาน พนักงานมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของพนักงานที่ให้ไว้กับบริษัทฯได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่พนักงานได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
  2. หากพนักงานถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทฯ หรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้บริษัทฯไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้

 

  1. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
    1. บริษัทฯจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
    2. บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานไว้ตลอดระยะเวลาที่เป็นพนักงานของเรา เพื่อปฏิบัติตามสัญญาและตามระยะเวลาที่จำเป็นหลังจากสิ้นสุดการเป็นพนักงานของบริษัทฯแล้ว
    3. บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของสมาชิกครอบครัวหรือผู้อยู่ในความดูแลของพนักงานไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นต่อการประมวลผลเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อตอบสนองต่อสิทธิของพนักงานในการได้รับสวัสดิการตามข้อบังคับและระเบียบการบริหารงานบุคคลของบริษัทฯ
    4. กรณีที่บริษัทฯใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานโดยขอความยินยอมจากพนักงาน บริษัทฯจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าพนักงานจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอม และบริษัทฯดำเนินการตามคำขอของพนักงานเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีบริษัทฯจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าพนักงานเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้บริษัทฯสามารถตอบสนองต่อคำขอของพนักงานในอนาคตได้
    5. บริษัทฯจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
    1. บริษัทฯจะเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานกับ บุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มของเรา (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลากร, การจ้างงาน, การรักษาความปลอดภัย ,การตรวจสอบประวัติ, การทดสอบคุณสมบัติและความสามารถ, ระบบสารสนเทศ, สถาบันการเงิน, คู่ธุรกิจ, ผู้พัฒนาระบบสารสนเทศ, หน่วยงานของรัฐ และบุคคลอื่นที่จำเป็น เพื่อให้บริษัทฯสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่พนักงาน รวมถึงดำเนินการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้.
    2. บริษัทฯจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของพนักงานอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
  1. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
    1. บริษัทฯอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานไปยังบุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งพนักงานเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างเรากับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของพนักงานหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของพนักงานก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของพนักงานหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
    2.  บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลของพนักงานบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่น ในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูป และรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูป ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน แต่บริษัทฯจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
    3.  ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานไปยังต่างประเทศ บริษัทฯจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานจะได้รับการคุ้มครองและพนักงานสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานได้ตามกฎหมาย รวมถึงบริษัทฯจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของพนักงานอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

 

  1. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
    1. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทฯ และบริษัทฯได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
    2. บริษัทฯ จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

 

  1.  สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
    1. พนักงานมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สรุปดังนี้
      1. ถอนความยินยอมที่พนักงานได้ให้ไว้กับบริษัทฯเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
      2. ขอดูและคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
      3. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
      4. คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับพนักงาน
      5. ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของพนักงานได้ (anonymous)
      6. ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
      7. แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
      8. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทฯหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ บริษัทฯจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของพนักงานโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทฯได้รับคำร้องขอดังกล่าว และสิทธิตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

  1. ติดต่อบริษัท

ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ หรือข้อติชม เกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือต้องการขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางดังนี้

  • หมายเลขโทรศัพท์: 043-394-252-5
  • อีเมล : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทจะประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ผ่านทางเว็บไซต์นี้ ซึ่งท่านควรเข้ามาตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นครั้งคราว โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ประกาศ