นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน ผู้สมัครเข้าฝึกงาน และผู้ฝึกงานของ  

บริษัท อินเตอร์ วอเตอร์ ทรีทเม้นท์ จำกัด

บริษัท อินเตอร์ วอเตอร์ ทรีทเม้นท์ จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริษัทฯ” “เรา” หรือ “ของเรา”)  ให้ความสำคัญเและเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน ผู้สมัครเข้าฝึกงาน และผู้ฝึกงาน (รวมเรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึงการลบ และทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้

 

  1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
    1. เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านในการสมัครงานกับบริษัทฯ เช่น การดำเนินการตามกระบวนการสรรหา การตรวจสอบคุณสมบัติ การคัดเลือกก่อนการทำสัญญาจ้างเป็นพนักงาน รวมถึงการปฏิบัติตามข้อตกลงการเข้าฝึกงาน การจ่ายค่าตอบแทนการฝึกงาน การได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากการฝึกงาน
    2. เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯหรือของบุคคลอื่น เช่น วิเคราะห์และจัดทำฐานข้อมูล การบริหารจัดการและปรับปรุงกระบวนการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน การประเมินผลการฝึกงาน การส่งข่าวสารที่เกี่ยวกับตำแหน่งงาน การจัดทำสัญญาฝึกงานหรือสัญญาจ้างงานในกรณีที่ท่านผ่านการคัดเลือก การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
    3. เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ
    4. เพื่อให้บริษัทฯสามารถปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย
    5. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่บริษัทฯ
    6. เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ เช่น การยินยอมให้ส่งข้อมูลการสมัครเข้าทำงานหรือการสมัครเข้าฝึกงานของท่านแก่บริษัทฯ

 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
    1. ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในใบสมัคร ดังนี้
      1. ข้อมูลตามเอกสารที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัทฯ เช่น Resume, Curriculum Vitae (CV), จดหมายสมัครงาน, ใบสมัครงาน, ความเห็นประกอบการสรรหาพนักงาน เป็นต้น
      2. ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของท่าน เช่น ชื่อ-นามสกุล, เพศ, วันเดือนปีที่เกิด น้ำหนัก ส่วนสูง เลขที่บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง, หมู่เลือด, สัญชาติ, ศาสนา, สถานะการสมรส, Line ID, Facebook เป็นต้น
      3. ข้อมูลในการติดต่อกับท่าน เช่น ที่อยู่, ที่อยู่ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail address), หมายเลขโทรศัพท์, ข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย เช่น Line ID, Facebook เป็นต้น
      4. เงื่อนไขในการปฏิบัติงาน เช่น สามารถปฏิบัติงานต่างจังหวัดได้หรือไม่, พื้นที่ที่ต้องการปฏิบัติงาน
      5. ข้อมูลของคู่สมรส บุตร บิดา มารดา เช่น ชื่อ-นามสกุล, เลขที่บัตรประชาชน,วันเดือนปีที่เกิด, สัญชาติ, หมู่โลหิต, การศึกษา, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
      6. ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกครอบครัวหรือผู้อยู่ในความดูแลของท่าน
      7. รูปถ่ายและภาพเคลื่อนไหว
      8. ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา ความสามารถและการพัฒนาศักยภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ ของท่าน เช่น ระดับการศึกษา, วุฒิการศึกษา, สถาบัน/มหาวิทยาลัย, ประวัติการศึกษา, ประวัติการฝึกอบรม, ผลการศึกษา, ผลการทดสอบ, สิทธิในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย, คุณสมบัติด้านวิชาชีพ, ความสามารถทางด้านภาษา, และความสามารถอื่น ๆ ข้อมูลจากการอ้างอิงที่ท่านได้ให้แก่บริษัทฯ
      9. ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานและข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานในอดีต เช่น ตำแหน่งงาน, รายละเอียดของนายจ้าง, เงินเดือนและค่าตอบแทน, สวัสดิการที่ได้รับ เป็นต้น
      10. ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่สามารถปฏิบัติงานได้
      11. ข้อมูลเกี่ยวกับภาระทางทหาร
      12. ความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ
      13. รายละเอียดของบุคคลที่อ้างถึง และรายละเอียดของผู้ที่บริษัทฯสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
  1. ข้อมูลจากการทำแบบทดสอบข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของท่าน เช่น นิสัย, พฤติกรรม, ทัศนะคติ, ความถนัด, ทักษะ, ภาวะความเป็นผู้นำ, ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น, ความฉลาดทางอารมณ์, ซึ่งอาจได้มาจากการสัมภาสน์ สอบถาม สังเกตและวิเคราะห์ของบริษัทฯในระหว่างที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัทฯ
  2. ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการรายงานหน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น กระทรวงแรงงาน, สถาบัน/มหาวิทยาลัย เป็นต้น
  3. ข้อมูลที่รวบรวมจากท่าน เช่น ข้อมูลที่ท่านระบุหรือให้ไว้แก่บริษัทฯ, ข้อมูลที่ท่านแจ้งแก่บริษัทฯในระหว่างการสัมภาษณ์งาน, ข้อมูลของท่านจากการทำแบบทดสอบต่าง ๆ,  ข้อมูลที่ท่านให้ไว้ในการเข้าร่วมกิจกรรมกับบริษัทฯ
  4. ข้อมูลที่ท่านเลือกจะแบ่งปันและเปิดเผยผ่านระบบ แอปพลิเคชัน, เครื่องมือ, แบบสอบถาม และบริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ
  5. เอกสารที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่าน เช่น สำเนาเอกสารที่หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนออกให้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน, ใบอนุญาตขับรถ, หนังสือเดินทาง, สำเนาทะเบียนบ้าน, ประกาศนียบัตร, ปริญญาบัตร, ใบแสดงผลการเรียน
  6. ข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการสรรหาและคัดเลือกพนักงานหรือนักศึกษาฝึกงาน การปฏิบัติตามสัญญาการฝึกงาน การดูแลสิทธิประโยชน์สวัสดิการ การวิเคราะห์และการบริหารงานของบริษัทฯและการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ
  7. สำหรับผู้ฝึกงาน มีการเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เช่น
    1. ข้อมูลเกี่ยวกับบิดามารดาหรือผู้ปกครอง เช่น ชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์หรือหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่
    2. บัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงฝึกงาน
    3. ลักษณะของผู้ฝึกงานและข้อมูลจากการฝึกงาน เช่น นิสัย, พฤติกรรม, ทัศนคติ, ความถนัด, ทักษะ, ภาวะความเป็นผู้นำ, ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น,ความฉลาดทางอารมณ์, ความมีวินัย, หรือลักษณะอื่น ๆ รวมถึง การบันทึกเวลาเข้าออกงาน และระยะเวลาในการปฏิบัติงาน เพื่อประเมินผลการฝึกงาน
    4. ข้อมูลอื่น ๆ เช่น รายละเอียดของผู้แนะนำ
  8. กรณีที่ท่านได้รับคัดเลือกให้เป็นพนักงาน บริษัทฯจะมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มตามที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับพนักงาน

 

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษ
  1. บริษัทฯอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทแจ้งไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
  2. บริษัทฯอาจต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้
    1. ข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก, ส่วนสูง, โรคประจำตัว, ตาบอดสี, ผลการตรวจร่างกาย, ข้อมูลการแพ้อาหาร, ข้อมูลการแพ้ยา, หมู่โลหิต, ใบรับรองแพทย์, ประวัติการรักษาพยาบาล, เพื่อการคุ้มครองแรงงาน การประเมินความสามารถในการทำงาน รวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
    2. ข้อมูลชีวภาพ (biometric data) เช่น ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ, ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า, เพื่อใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนของท่าน การป้องกันอาชญากรรม และการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ บริษัทฯหรือของบุคคลอื่น
    3. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติงานและรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ บริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น
    4.  ความเชื่อในลัทธิศาสนา, ปรัชญา, เชื้อชาติ, สัญชาติ, ความพิการ, ข้อมูลสหภาพแรงงาน, ข้อมูลพันธุกรรม, ข้อมูลชีวภาพ, เพื่อประกอบการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก กิจกรรม และสวัสดิการที่เหมาะสม รวมถึงเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านการดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน
    5. ข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษอื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต, ร่างกาย, หรือสุขภาพของบุคคลในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมได้ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน เพื่อใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม และสวัสดิการของพนักงาน
  3. ในกรณีที่จำเป็น บริษัทฯจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านโดยได้รับความยินยอมโดยชัดเจนจากท่านหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทฯจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน
  4. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม ซึ่งจะเก็บจากการหลักฐานที่ท่านนำมาแสดงหรือหรือท่านยินยอมให้ตรวจสอบจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยบริษัทฯจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนด

 

  1. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล
    1. ในกรณีที่บริษัทฯเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับบริษัทฯได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
    2. หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับบริษัทฯหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้บริษัทฯไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้
    3. ในกรณีที่บริษัทฯจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลอื่น ท่านรับรองว่าท่านมีอำนาจกระทำการแทนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการรับทราบนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้และในการให้ความยินยอมแก่บริษัทฯในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

 

  1. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
    1. บริษัทฯจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
    2. ระยะเวลาที่บริษัทฯเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจแตกต่างกันไปตามกิจกรรมการประมวลผล ซึ่งท่านสามารถดูรายละเอียดได้ในแต่ละหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
    3. บริษัทฯอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้หลังเสร็จสิ้นการพิจารณาความเหมาะสมของท่านในตำแหน่งนั้น เพื่อใช้ในการพิจารณาและติดต่อกับท่านในกรณีที่มีตำแหน่งงานอื่นที่บริษัทฯเห็นว่าอาจเหมาะสมกับท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการสมัครเข้าเป็นพนักงาน หรือเข้าฝึกงาน และหากท่านไม่ต้องการให้บริษัทฯเก็บข้อมูลไว้เพื่อประกอบการพิจารณาตำแหน่งงานอื่น ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯได้ตามช่องทางที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
    4. กรณีที่ท่านผ่านการคัดเลือกเข้าทำงานเป็นพนักงาน หรือเข้าฝึกงาน บริษัทฯจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการจ้างงานพนักงาน หรือการฝึกงานของท่าน
    5. กรณีทีบริษัทฯใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน บริษัทฯจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและบริษัทฯดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดีบริษัทฯจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้บริษัทฯสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาคตได้
    6. บริษัทฯจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

 

  1. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
    1. บริษัทฯเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับ บุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทของบริษัท (“บุคคลอื่น”) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลากร, การจ้างงาน, การรักษาความปลอดภัย, การตรวจสอบประวัติ, การทดสอบคุณสมบัติและความสามารถ, ระบบสารสนเทศ, สถาบันการเงิน, คู่ธุรกิจ,   ผู้พัฒนาระบบสารสนเทศ, หน่วยงานของรัฐ และบุคคลอื่นที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทฯสามารถดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ท่าน รวมถึงดำเนินการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
    2. บริษัทฯจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ 
  2. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
    1. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทฯและบริษัทฯได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย, การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต, การใช้งานในทางที่ผิด, การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง, และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
    2. บริษัทฯจัดให้มีมาตรการรักษาความมันคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย, เข้าถึง, ใช้, เปลี่ยนแปลง, แก้ไข, เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหน้าที่โดยมิชอบ, และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็น หรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม 

 

  1. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สรุปดังนี้

  1. ถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  2. ขอดูและคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  3. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
  4. คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
  5. ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ (anonymization)
  6. ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  7. แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  8.  ร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทฯหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ บริษัทฯจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทฯได้รับคำร้องขอดังกล่าว และสิทธิตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด



  1. ติดต่อบริษัทฯ

ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ หรือข้อติชม เกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้ หรือต้องการขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางดังนี้

  • หมายเลขโทรศัพท์: 043-394-252-5
  • อีเมล : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ บริษัทจะประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ผ่านทางเว็บไซต์นี้ ซึ่งท่านควรเข้ามาตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นครั้งคราว โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ประกาศ