น้ำประปาที่คุณอยู่ใช้ในชีวิตประจำวันนั้น ไม่เพียงแต่ใช้ชำระล้างร่างกาย อุปกรณ์เครื่องครัวและกิจกรรมต่าง ๆ มากมายแล้ว น้ำประปานั้นยังมีส่วนประกอบของแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเราอยู่หลายชนิด อย่างเช่น แคลเซียม ฟลูออไรด์ และแมกนีเซียม เป็นต้น
ซึ่งแคลเซียมนั้น คือ เกลือแร่ตัวหนึ่งที่มีประโยชน์มาก ๆ ต่อร่างกายเรา เรารู้จักแคลเซียมมานานในแง่ของการช่วยให้กระดูกแข็งแรง ไม่เพียงเท่านั้นยังมีงานวิจัยตัวหนึ่งได้พบว่า แคลเซียม สามารถช่วยต่อต้าน ความดันโลหิตสูง อาการหัวใจกำเริบ อาการปวดก่อนมีประจำเดือน และ มะเร็งลำไส้ อีกทั้งแคลเซียมยังเป็นสารอาหารที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ส่วนใหญ่อยู่ในกระดูก ฟัน และเนื้อเยื่อต่าง ๆ ดังที่ได้กล่าวแล้ว แคลเซียมยังช่วยทำให้กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างปกติ เช่น ระบบของกล้ามเนื้อ ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบเหล่านี้ต้องอาศัยแคลเซียม ทั้งสิ้น ปัจจุบันนี้ประโยชน์ของแคลเซียมมีบทบาทมากขึ้นกว่าเดิมโดยถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์สำหรับการป้องกันโรคกระดูกพรุน โรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่ ช่วยลดไขมันในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ ช่วยให้ระบบประสาทคลายตัว เป็นยานอนหลับตามธรรมชาติได้อย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยชะลอความแก่ได้อีกด้วย แคลเซียมที่มีประโยชน์นี้ มีอยู่ในน้ำประปาของการประปานครหลวง อยู่ถึง 30 มิลลิกรัม/ลิตร
ส่วนฟลูออไรด์นั้นก็มีความสำคัญ เพราะเป็นสารที่ช่วยป้องกันโรคฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพและจัดเป็นองค์ประกอบ 1 ใน 5 ที่สำคัญของงานทันตกรรมป้องกัน โดยช่วยชะลอการย่อยสลายของแร่ธาตุ และเสริมกระบวนการคืนกลับของแร่ธาตุบนผิวเคลือบฟัน ช่วยยับยั้งการผุของผิวเคลือบฟันในระยะแรกๆ และช่วยเพิ่มความต้านทานต่อกรดให้ผิวเคลือบฟัน ถ้าได้รับฟลูออไรด์ โดยการรับประทานในช่วงที่มีการสร้างฟัน ทำให้ฟันแข็งแรงและลดปัญหาฟันผุ
ทั้งนี้ในน้ำประปาจะมีปริมาณฟลูออไรด์แตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่ซึ่งในน้ำประปาของการประปานครหลวงในพื้นที่ กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ จะมีฟลูออไรด์อยู่ประมาณ 0.3 มิลลิกรัม/ลิตร ทำให้ประชาชนที่ดื่มน้ำประปาจะได้รับฟลูออไรด์เสริมไปด้วย
และส่งท้ายด้วยคุณประโยชน์ดีๆอย่าง แมกนีเซียมที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยเพราะแมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย ช่วยเสริมสร้างให้กระดูกแข็งแรง รักษาจังหวะการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และยังช่วยพัฒนากล้ามเนื้อและระบบประสาทอีกด้วย ซึ่งกองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าปริมาณแมกนีเซียมที่ควรได้รับสำหรับเด็ก มีดังนี้
• อายุ 1-3 ปี : 60 มิลลิกรัมต่อวัน
• อายุ 4-5 ปี : 80 มิลลิกรัมต่อวัน
• อายุ 6-8 ปี : 120 มิลลิกรัมต่อวัน
แต่ใช่ว่าแมกนีเซียมนั้นจะเป็นประโยชน์กับเฉพาะเด็ก ๆ เท่านั้น แมกนีเซียม ยังทำหน้าที่ในการส่งผ่านกระแสประสาท จึงช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวกับสมองได้ เช่น ซึมเศร้า ไมเกรน เครียด เป็นต้น และมีหน้าที่สำคัญอีกอย่างคือเป็นตัวช่วยในการสะสมแคลเซียมเข้ากระดูก ลดความรุนแรงของโรคหัวใจวายเรื้อรัง และช่วยลดการเกิดตะคริวในหญิงมีครรภ์ได้อีกด้วย ซึ่งในน้ำประปามีแมกนีเซียมอยู่ประมาณ 8 มิลลิกรัม/ลิตร
ทั้งนี้ มีการระบุจากการประปานครหลวงว่าน้ำประปาที่ใช้นั้นมีประโยชน์ครบครัน สามารถใช้ได้ทั้งอุปโภคและบริโภค อีกทั้งมีความสะอาด ความปลอดภัย และมีปริมาณแร่ธาตุของสารอาหารที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะช่วยปรับสภาวะในร่างกายให้เกิดความสมดุลมากยิ่งขึ้น
เครดิต : http://202.129.59.73/tn/