ซัมซัม คือบ่อน้ำในกรุงมักกะฮฺ ที่มุสลิมเราทุกๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเวลามีผู้ไปทำฮัจญ์กลับมา มักจะนำน้ำซัมซัมมาให้เราดื่มกันเสมอ นัยว่าเพื่อเป็นสิริมงคล ส่วนมากมักจะทราบกันดีแล้วว่า น้ำซัมซัม คือน้ำจากตาน้ำใต้ดิน เกิดขึ้นมาตั้งแต่ สมัยท่านศาสดาอิบรอฮีม เมื่อพระนางฮะญัรฺ ซึ่งอยู่ในทะเลทรายเพียงลำพังกับท่านศาสดาอิสมาอีล และกำลังอยู่ในภาวะขาดน้ำเป็นอย่างยิ่ง จนต้องวิ่งไปมาระหว่างภูเขาซอฟา กับมัรวะฮฺเพื่อหาน้ำถึงเจ็ดเที่ยว กว่าพระผู้เป็นเจ้าจะประทานน้ำจากตาน้ำให้ผุดขึ้นมาบริเวณปลายเท้าของท่านศาสดาอิสมาอีลที่กำลังเป็นทารกอยู่ และนั่นคือกำเนิดของน้ำซัมซัม เมื่อประมาณสองพันปีก่อนคริสต์ศักราช

นั่นคือ ความมหัศจรรย์สิ่งแรกของน้ำซัมซัมนี้ แต่ที่น่าประหลาดมหัศจรรย์ตามมานั่นก็คือหลังจากนั้นแล้ว น้ำจากตาน้ำแห่งนี้ก็ไม่เคยเหือดแห้งอีกเลย ทั้งๆ ที่มันถูกใช้ในการอุปโภค บริโภค โดยคนมักกะฮฺล้านหกแสนคนทุกวัน ร่วมกับผู้แสวงบุญ ประมาณสี่ล้านคนต่อปีในช่วงเทศกาลฮัจญ์ แต่บ่อน้ำเล็กๆ นี้ก็ยังสามารถให้น้ำแก่คนเหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน ไม่เคยขาดตกบกพร่องไปแต่อย่างใด

เมื่อปี ค.ศ. 1971 ได้มีแพทย์ชาวอียิปต์ท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นมุสลิมหรือเปล่า ได้เขียนบทความเผยแพร่ว่า น้ำซัมซัมนั้น มีความเสี่ยงที่จะเป็นบ่อเกิดแห่งเชื้อโรคต่างๆ โดยอ้างว่า เพราะบ่อน้ำนี้มีแหล่งกำเนิดที่บริเวณกะอฺบะฮฺ ซึ่งเป็นที่ลุ่มภายในหุบเขาที่ลุ่มเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของเมือง อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล และยังอยู่ใจกลางของเมืองมักกะฮฺด้วย ดังนั้น จึงน่าจะเป็นแหล่งที่น้ำเสียต่างๆ วิ่งไปรวมกัน ก่อให้เกิดเป็นแหล่งน้ำซัมซัมขึ้นมา

เรื่องนี้เมื่อทราบถึงกษัตริย์มักกะฮฺในสมัยนั้นคือ กษัตริย์ฟัยซอล พระองค์ทรงพิโรธ ผู้เขียนบทความนี้เป็นอย่างยิ่งมาก และได้สั่งให้มีการสำรวจบ่อน้ำซัมซัม และให้มีการตรวจทางวิทยาศาสตร์ยืนยันทันทีว่ามีส่วนผสมที่อันตรายต่อร่างกายอยู่หรือไม่และสามารถใช้ในการอุปโภคบริโภคได้อย่างปลอดภัยจริงหรือไม่ โดยส่งน้ำไปตรวจยังประเทศยุโรปเพื่อเป็นการยืนยัน และให้กระทรวงทรัพยากรน้ำเป็นผู้สำรวจ

คณะสำรวจได้ทำการสำรวจบ่อซัมซัมทั้งหมด โดยลงไปถึงก้นบ่อที่มีความลึก 30 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-3 เมตร มีระดับน้ำในบ่ออยู่ประมาณ 3 เมตรจากผิวบ่อ ได้มีการค้นจนทั่วบ่อ แต่ไม่พบท่อใดๆ ที่ต่อเข้ามาในบ่อ เป็นเครื่องชี้ว่า ไม่มีการนำน้ำอื่นๆ เข้ามาในบ่อได้อย่างเด็ดขาด แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่พบรอยแตกรั่วของพื้นก้นบ่อ ที่จะแสดงว่า น้ำไหลออกมาจากที่ใด และเมื่อมีการสูบน้ำด้วยเครื่องสูบอย่างแรง กลับพบว่า มีน้ำซึมปุดๆ ออกมาจากพื้นก้นบ่อในทุกๆ ที่อย่างเท่าเทียมกัน เมื่อสูบน้ำเป็นปริมาณ 8,000 ลิตรต่อวินาที เป็นเวลา 24 ชั่วโมงเต็ม ปรากฏว่า ระดับน้ำได้บ่อ ลดลงจาก 3 เมตร เป็น 13 เมตร หลังจากน้ำระดับน้ำก็ไม่ลดลงอีก และเมื่อหยุดสูบ น้ำก็กลับเพิ่มเต็มขึ้นจนถึงระดับเดิมคือ 3 เมตรจากผิวบ่อ ภายในเวลา 11 นาที และพบว่า น้ำนี้เป็นบ่อใหญ่มาจากชั้นหินอุ้มน้ำของน้ำชั้นน้ำใต้ดิน ที่อยู่ใต้เมืองมักกะฮฺ เรียกว่า วาดี อิบรอฮีม

ผลการตรวจสภาพน้ำพบว่า มีสภาพสะอาด มีส่วนประกอบของแคลเซียม และแมกนีเซียม มากกว่าน้ำปกติ แต่ที่สำคัญคือ มีฟลูออไรด์ในปริมาณมากพอ จนมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคได้ ดังนั้น น้ำซัมซัมจึงมีความสะอาด สามารถที่จะบริโภคได้อย่างปลอดภัย การตรวจสอบครั้งนี้ จึงสามารถลบข้อกล่าวหาเรื่องน้ำไม่สะอาดได้อย่างหมดจดที่สุด

แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องรู้ก่อนว่า แคลเซียมในปริมาณมากๆ นั้นอาจจะตกตะกอนทำให้เกิดเป็นนิ่วได้ ดังนั้น ก็ควรดื่มแต่พอสมควร อย่าดื่มมากจนเกินไปคือไม่ควรเกินสองลิตรต่อวัน ถ้าอากาศไม่แห้งมาก และถ้าน้ำนั้นมีกลิ่นรุนแรงจากสารธาตุต่างๆ มากเกินไป ก็อย่าเพิ่งดื่ม ควรจะรอให้กลิ่นต่างๆ เหล่านั้นระเหยไปให้หมดก่อน น่าจะเป็นการดีกว่า